ดูเหมือนว่าตอนนี้ฝุ่น PM 2.5 กำลังระบาดไม่แพ้เชื้อไวรัส (Covid-19) เลย ทุกวันนี้จะไปไหนต้องสวมหน้ากากอนามัยติดตัวไปตลอด ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้โทรศัพท์มือถือ หรือกระเป๋าเงินเลยค่ะ แล้วเราสงสัยกันไหมคะว่า สวมหน้ากากอนามัยแล้วทำไมยังติดเชื้อไวรัสได้

นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเราเลือกใช้หน้ากากอนามัยที่ผิดวิธีหรือป่าวคะ?

ในท้องตลาดมีหน้ากากหลายแบบให้เราเลือกซื้อ แล้วเราควรเลือกหน้ากากอนามัยแบบไหนเพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 เชื้อไวรัส (Covid-19) ให้มีประสิทธิภาพไปพร้อมกัน วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมกันนะคะ

  1. หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่งจากผู้อื่น ป้องกันเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้ถึง 99% แต่ไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้
  2. หน้ากากคาร์บอน : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่งจากผู้อื่น กรองกลิ่น มีคุณสมบัติไม่ต่างจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แต่จะมีความพิเศษคือมีชั้น Carbon ที่สามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่า เช่น ทินเนอร์ น้ำมัน กาว แต่ไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้
  3. หน้ากาก N95 : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่ง กรองกลิ่น มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 และ PM 10 ได้ไม่น้อยกว่า 95% สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในระดับดีมาก
  4. หน้ากากผ้า : สำหรับป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันน้ำมูกหรือน้ำลายจากการ ไอ/จามได้ กรองฝุ่นละอองอนุภาคใหญ่ได้ แต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ ไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้
  5. หน้ากากฟองน้ำ : สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ แต่ไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้

นอกจากการเลือกชนิดของหน้ากากอนามัยแล้ว การสวมหน้ากากให้กระชับกับหน้าก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน และที่สำคัญควรล้างมือด้วยเจลหรือแอลกอฮอล์ให้สะอาด ก่อนสวมหรือถอดหน้ากากอนามัยทุกครั้งนะคะ

สอบถามข้อมูลด้านอาหาร และสุขภาพได้ที่  : ธัญชนก ศรีน้อยเมือง (นักโภชนาการ)

Line: cha_nok